Saturday, January 06, 2007

ประวัติศาสตร์วัดพระธาตุเมืองนคร












วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นวัดที่ขึ้นชื่อและเป็นที่นับถือสักการะบูชาของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชและคนที่มาเยี่ยมอีกทั้งมาเที่ยว ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง มีเนื้อที่ 25 ไร่ 2 งาน วัดพระมหาธาตุเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชั้นวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดพระธาตุ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศจดทะเบียนวัดพระธาตุเป็นโบราณสถานนับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ตามตำนานกล่าวว่าสร้างมามากกว่า 1,500 ปี
มีศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัยต่อมาปีพ.ศ. 1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชได้ทำการก่อสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่เป็นทรงสาญจิและในปีพ.ศ.1770








พระเจ้าจันทรภานุกษัตริย์แห่งนครศรีธรรมราชจึงได้รับเอาพระภิกษุจากลังกามาตั้งคณะสงฆ์และบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ให้เป็นไปตามแบบสถาปัตยกรรมลังกาอันเป็นแบบที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันคือเป็นทรงระฆังคว่ำมีปล้องไฉน 52 ปล้องสูงจากฐานถึงยอด 37 วา ยอดสุดของปล้องไฉนหุ้มทองคำเหลืองอร่ามสูง 6 วา 1 ศอก แผ่เป็นแผ่นหนาเท่าใบลานหุ้มไว้น้ำหนัก800 ชั่ง หรือ960 กิโลกรัม
ภายในวัดพระมหาธาตุมีโบราณวัตถุมากมายเก็บรักษาอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระวิหารหลวงซึ่งเป็นศิลปะสมัยอยุธยา วิหารพระมหาภิเนษกรม( พระทรงม้า)ทางขึ้นไปบนฐานองค์เจดีย์ วิหารทับเกษตรวิหาร เขียนและวิหารโพธิ์ลังกา ซึ่งเป็นที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศ ในปีงบประมาณ 2530 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการจัดโครงการพัฒนาสภาพกายภาพวัดมหาธาตุวรวิหารขึ้น คือก่อสร้างรั้วพร้อมบ่อต้นไม้ด้านทิศเหนือ และทิศใต้ห้องสุขาขนาด 8 ที่ 1 หลังและแผ่นป้ายแสดงประวัติ และผังบริเวณวัด ขณะนี้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารได้รับการบูรณะใหม่เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2532เป็นต้นมา ขณะนี้คงเหลือแต่ส่วนยอดพระบรมธาตุเจดีย์เท่านั้น และซึ่งในเวลาต่อมาได้ทำการหล่อทองบนยอดซึ่งใช้เงินจำนวนกว่า 49 ล้านบาทอีกทั้งภายในวัดมีความร่มเย็น น่าอยู่ รวมทั้งมีร้านอาหาร ของฝาก เครื่องถมและอี่นๆที่น่าสนใจมากมาย
วัดพระธาตุยังมีมหาวิทยาลัยที่ให้บุคคลที่ไม่มีเวลาเรียนในวันจันทร์ถึงศุกร์ได้มาเรียนในวันเสาร์-อาทิตย์อีกด้วยนับเป็นสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งของนักท่องเที่ยวที่สนใจ















No comments: